แหวนทอง ของหลุดจำนำ Gold2diamond

บทความ

บทความแนะนำ สำหรับลูกค้าใหม่

04-09-2555 16:27:54น.

80s3jU.jpg [700x263px] ฝากรูป

ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า ทำอย่างไรมีคำตอบ

ปัจจุบันนี้การซื้อ-ขายสินค้าและโฆษณาผ่านเว็บไซต์เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายและยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมากในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีเครือข่าย Internet ที่ขยายสัญญาณคลอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการ Internet ได้มีโอกาสเข้าถึงได้สัญญาณไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด ทำให้เกิดความสะดวกในการนำเสนอและการค้นหาสินค้าหรือบริการได้ตลอด24 ชั่วโมง

ในแง่ของผู้ขายสินค้าใน Web site

- สามารถนำเสนอขายสินค้าหรือบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

- เพิ่มช่องทางในการนำเสนอขายสินค้าหรือบริการ

- ลดค่าใช้จ่ายสำหรับหน้าร้านได้ ( เช่น ค่าเช่าพื้นที่,ค่าโฆษณา,ค่าจ้างพนักงาน )

- ลดค่าใช้จ่ายการเดินทางการจัดส่งสินค้า ( เช่น ไปรษณีย์ไทย EMS,DHL,FedEx )

- สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดพื้นที่ทั่วโลก

ในแง่ของผู้ซื้อสินค้าใน Web site

- สามารถค้นหาสินค้า-บริการโดยง่ายตลอด 24 ชั่วโมง (เช่น บริการค้นหาผ่าน www.google.com )

- ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาสินค้าหรือบริการ

- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

- สามารถเปรียบเทียบราคาได้โดยง่าย

- สามารถเข้าถึงข้อมูลของสินค้าได้โดยง่ายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก

แต่ประเด็นในวันนี้เราจะมาว่ากันถึง การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า ทำอย่างไรเราถึงจะได้ไม่ถูกหลอก แหม!! ก็อุส่าเจอของที่เราอยากได้ทั้งที ทำยังไงดีที่จะไม่ถูกหลอกขายสินค้าที่ด้อยคุณภาพให้ หรือดีไม่ดีอาจจะเสียเงินเปล่าโดยไม่ได้รับสินค้า และอาจจะเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลกันล่ะทีนี้

เรามาดูรูปแบบของการนำเสนอขายของผู้ขายสินค้าใน Web site กันดีกว่า

- การลงประกาศขายสินค้าตาม Web Board แบบทั่วไป (www.sanook.com , www.pantipmarket.com , www.thai2hand.com , www.market.onlineoops.com , ฯลฯ )

ขอยกตัวอย่างเสนอขายสินค้าผ่าน www.market.onlineoops.com

3hslNo.jpg [751x762px] ฝากรูป

รูปแบบนี้คือการลงประกาศขายสินค้าตาม Web board ที่อนุญาติให้ บุคคลทั่วไปหรือสมาชิก ลงประกาศได้ฟรี ซึ่งในแต่ละ Web จะมีข้อกำหนดหรือนโยบายที่แตกต่างกันออกไปในเรื่องของการอนุญาต โดยอาจจะต้องมีการสมัครสมาชิกก่อนเพื่อที่จะสามารถลงประกาศได้ ซึ่งจะไม่ขอลงในรายละเอียด ณ ที่นี้ค่ะ

l0l9Yi.jpg [754x611px] ฝากรูป

* ขออนุญาตยืมประกาศเป็นตัวอย่างนะค่ะ *

ประกาศที่ผู้ประกาศได้นำมาลงนั้นจะถูก Update ให้เป็นปัจจุบันทันที โดยประกาศที่ลงใหม่จะอยู่ด้านบนสุด และจะดันให้ประกาศที่เก่ากว่าเลื่อนลงไปด้านล่างเรื่อยๆ ( หรือตามแต่ที่ผู้ดูแล Web จะกำหนดค่ะ )

NWsPSf.jpg [622x614px] ฝากรูป

**ประกาศตัวอย่างขอยืมมาประกอบการอธิบายค่ะ**

ผู้ซื้อ-ผู้ขายจะติดต่อกันเองโดยไม่ได้ผ่านคนกลาง

ส่วนวิธีชำระค่าสินค้าและวิธีรับ-ส่งสินค้านั้น จะอยู่ที่การตกลงกันเองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

เพราะผู้ขายไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง

 

โดยทั่วไปจะมีอยู่แค่ 5 วิธี

1.ผู้ขายนำส่งสินค้าให้และชำระเงินสด (ถ้าหากกำไรคุ้มค่าขนส่งนะ)

2.ผู้ซื้อมารับสินค้าเองและชำระเงินสด (เสียค่ารถอีกแล้วเรา --a)

3.ผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขายก่อนและผู้ขายจัดส่งโดยพัสดุ EMS (อยู่ต่างจังหวัด)

4.ผู้ขายจัดส่งสินค้าก่อนโดยพัสดุ EMS และผู้ซื้อได้รับสินค้าจึงโอนเงินชำระค่าสินค้าให้ผู้ขาย(อยู่ต่างจังหวัด)

5.ผู้ขายจัดส่งสินค้าโดยพัสดุ EMS แบบเก็บเงินปลายทาง(อยู่ต่างจังหวัด)

** แต่เหลือเชื่อเกินว่า 90 % ของผู้ขาย ไม่เลือกข้อ 4,5 **

** สาเหตุเพราะ ได้รับเงินช้า หรืออาจจะไม่ได้รับเลย คนขายถูกคนซื้อหลอกก็มีเหมือนกันนะ **

ภาระจะตกอยู่ที่ผู้ซื้อที่อยู่คนละจังหวัดกับผู้ขายทันที เพราะจะได้รับการส่งแบบ พัสดุ EMS แบบข้อ 3

( ต้องมานั่งลุ้นอีก ว่าของจะมามั้ยเนี่ย )

ดังนั้นหากคุณๆ ทั้งหลายเลือกที่จะสั่งซื้อสินค้าในลักษณะนี้ โปรดใช้สติไตร่ตรอง ในการตัดสินใจที่จะเลือกผู้ขายให้ดี ( ผู้ขายที่ดีมีอยู่เยอะนะค่ะ อย่าเหมาเอาเองว่าจะโดนตั้งหน้าตั้งตาโกงอย่างเดียว )

ขอสรุปอีกครั้งดังนี้

การลงประกาศขายสินค้าตาม Web Board แบบทั่วไป ผู้ขายจะเป็นใครก็ได้ที่สมัครหรือไม่ได้สมัครสมาชิกกับ Web board นั้นๆ ดังนั้นหากท่านต้องการซื้อสินค้าในลักษณะนี้ ควรต้องใช้สติระมัดระวังตัวเองให้ดี พยายามคุยและหาข้อมูลของผู้ขาย ดูผู้ขายที่ได้รับความน่าเชื่อถือ เพราะหากถูกหลอกหรือถูกโกงแล้วท่านจะต้องมานั่งเสียเวลาแจ้งความโรงพักตามหาตัวผู้ขายซึ่งอาจใช้ชื่อปลอมและปิดเบอร์โทรศัพท์หนีไปแล้ว สบายตัวไป ( รอเวรกรรมตามไปเล่นงานเอาละกัน ) เราเชื่อว่าในสังคมมีคนเลวอยู่น้อยกว่าคนดีนะ อย่าทำให้การ Shoping ของเราหมดสนุกเพราะระแวงไปหมดซะทุกคนนะค่ะ สนใจอยากได้อะไรโทรศัพท์ไปคุยเลยเงินยังอยู่ในกระเป๋าเรา ยังไม่ซื้อซะอย่าง ใครจะมาบีบคอให้เราควักเงินออกมาได้ล่ะ จริงป่ะ

ต่อไปเรามาดูรูปแบบการประกาศขายสินค้าอีกแบบนึงเลยนะค่ะ

- การประกาศขายสินค้าแบบผู้ขายหรือร้านค้า มี Web site เป็นของตนเอง

ยกตัวอย่างเช่น www.gold2diamond.com

จำหน่าย ของหลุดจำนำ, ทองโบราณ, เพชรหลุดจำนำ , เพชรแท้หลุดจำนำ, สินค้าสั่งทำ และหลุดจำนำ ได้แก่ เครื่องประดับ, พลอยแท้,ทองคำแท้, แหวน, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, กำไล, เข็มกลัด, จี้, ต่างหู

cVK5mo.jpg [750x468px] ฝากรูป

** ตัวอย่าง **

แบบนี้คือร้านค้าที่มี Web site เป็นของตัวเอง จุดสังเกตจะขึ้นว่า http://www.gold2diamond.com ( หรือชื่ออื่นๆตามแต่ที่ร้านค้าจะทำการจด Domain เอาไว้ )

แบบนี้คือประกาศขายแบบบุคคลทั่วไปที่ไม่มีร้านค้า และไม่มี Web site เป็นของตัวเองได้ฝากลงประกาศขายสินค้าผ่านทาง Web board ของ www.market.onlineoops.com

** ตัวอjSWsQJ.jpg [750x856px] ฝากรูปย่าง **

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า

บุคคลหรือร้านค้าที่ลงประกาศขายสินค้าแบบลงประกาศขายได้ฟรีตาม Web board ต่างๆนั้น

จะสามารถ จะแนะนำ Web site ของตัวเองได้ด้วย

เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปดูสินค้าอื่นๆเพิ่มเติมใน Web site ของตน

ทีนี้อาจจะสงสัยว่ามี Web site เป็นของตัวเองแล้วมันเพิ่มความน่าเชื่อถือยังไงเรามาดูกันนะค่ะ

ว่าการจะมี Web site ของตัวเองได้นั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง

- ต้องมีการจดทะเบียน Domain name เช่น gold2diamond.com , yahoo.co.th , sanook.com

เสียตัง

- ต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล หรือที่เรียกว่า Hosting เพื่อไว้สำหรับเก็บข้อมูลของ Web site นั้นๆ โดยสำหรับ Web site ที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนคนเข้าชมจำนวนมากในแต่ละวันนั้น ส่วนมากจะมีการเสียค่าบริการเป็นแบบรายเดือนหรือรายปี

เสียตัง

- โฆษณาเพื่อให้คนรู้จัก Web site ( อยู่ๆเปิด Web ใหม่ไม่โฆษณาใครจะรู้จักล่ะค่ะ)

เสียตัง เสียเวลา

จะเห็นได้ว่าการที่เราจะมี Web site เป็นของตัวเองและกว่าที่ Web

จะเป็นที่รู้จักนั้นจะต้อง ** ใช้ทั้งเงินทั้งเวลา ** และเทคนิคต่างๆ อีกมากมาย

และที่สำคัญที่สุดคือเวลาซึ่งไม่อาจจะตีราคาออกมาเป็นตัวเงินได้

สร้างกันมาขนาดนี้กว่าเว็บจะติดอันดับเป็นที่รู้จักเจ้าของ Web site ที่ไหนอยากจะทุบหม้อข้าวตัวเองก็ให้มันรู้ไป นี่แค่ข้อมูลเบื้องต้นนะค่ะ

เดี๋ยวว่ากันต่ออีกหน่อย

2YhI0L.jpg [750x577px] ฝากรูป

** ตัวอย่างผลจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ **

** ซึ่งจะมีการแข่งขันกันอย่างสูงเพื่อให้ติดอันดับการค้นหา และอันดับการค้นหาจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างโดยจะไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้นะค่ะ **

** แต่ที่แน่ๆคือ ลงเงิน ลงแรง ไปไม่น้อยนะเนี้ย **

ทีนี้เราจะมาดูกันว่านอกจากสิ่งที่กล่าวกันมาแล้วจะมีอะไรเป็นตัวบอกได้ว่า ร้านค้าหรือ Web site ที่เราอยากจะซื้อสินค้าหรือบริการนั้น จะมีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่เราจะสั่งซื้อสินค้า แล้วได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพกลับมา โดยที่เราไม่เสียเงินเสียเวลาฟรี

**** โชคเข้าข้างผู้ซื้อบ้างแล้วซิ ****

ร้านค้าทั้งหลายหากคิดที่จะทำเป็นธุรกิจแล้ว อย่างน้อยจะต้องมี ใบทะเบียนการค้าหรือใบทะเบียนพาณิชย์

เพื่อยืนยันตัวตนกับทางกระทรวงพาณิชย์ว่ามีการประกอบกิจการจริง

คุณลูกค้าทั้งหลายอุ่นใจได้แล้วซิ เพราะมีการยืนยันตัวตนกับทางกระทรวงพาณิชย์

ยังไงก็ตามตัวเจอแน่นอน

ร้านค้าบางรายอาจไม่ยอมแสดงเอกสารนี้ (แล้วแต่นโยบายของร้านนะค่ะ อาจจะเคยโดนแอบอ้างชื่อมาก่อน )

ใบทะเบียนการค้าหรือใบทะเบียนพาณิชย์ ไม่ว่าจะจดแบบใดก็แล้วแต่

(บุคคลธรรมดา,หจก.,บจก.บจม.,หสม.)

จะมีหน้าตาแบบนี้

56Zo8q.jpg [557x692px] ฝากรูป

** ตัวอย่างใบทะเบียนพาณิชย์ ออกให้โดยสำนักงานเขต **

*** ปลอมแปลงเอกสารราชการติดคุกนะค่ะ ไม่คุ้มหรอกค่ะ ***

 

** ในกรณีของการชำระค่าสินค้า โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร **

ท่านควรตรวจสอบ ชื่อบัญชี ที่จะทำการโอนเงินไป ด้วยว่า ตรงกั

** หากชื่อตรงกันหมดก็สบายใจได้เลยค่ะ **

** เพียงเท่านี้คุณลูกค้าทั้งหลาย ก็สบายใจได้แล้วค่ะ พร้อมแล้วก็เตรียมตัวไป Shopping กันเลย **

เราได้รวบรวมวิธีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายแบบง่ายๆไว้ให้ดังนี้

1

ตรวจสอบประวัติของผู้ขายโดยนำ ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ของ ผู้ขาย ไปค้นหาจาก เว็บไซต์ http://www.google.co.th/ ก่อนว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่

2

การตรวจสอบ DBD จาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้น ให้เราตรวจสอบด้วย เว็บไซต์ของผู้ประกาศ , ที่อยู่ของประกาศ , ชื่อร้านค้าของประกาศ , เบอร์ติดต่อกับผู้ประกาศ ว่าตรงกันกับในเว็บกรมพัฒนาธุรกิจหรือไม่ ซึ่งหากข้อมูลประกาศตรงกันกับ DBD แสดงว่า ประกาศนี้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น เพราะทางผู้ประกาศได้ยืนยันตนกับทาง กรมพัฒนาธุรกิจ แล้ว หากท่านมีปัญหาในการซื้อ/ขาย กับผู้ประกาศนี้ สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนกับทาง DBD ( http://www.dbd.go.th/ ) ได้ หากผู้ประกาศไม่มีเว็บไซต์ ให้ตรวจสอบจากสถานะผู้ประกาศจากข้ออื่น ๆ

3

การเลือก ซื้อ/ขาย สินค้านั้น เราควรเห็นรูปภาพประกอบสินค้า ดังนั้น เราควรเลือกดูประกาศที่มีรูปภาพสินค้าจริงประกอบ

4

ต้องระวังสินค้าที่มีราคาถูกกว่าตลาดมากเกินไป

5

หาก ต้องโอนเงินค่าสินค้าก่อน กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่า เลขที่บัญชี ที่จะโอนเคยมีประวัติไม่ดีหรือไม่ โดยเราสามารถค้นหาเลขที่บัญชี นั้นกับทาง http://www.google.co.th/ เพื่อตรวจสอบประวัติผู้ประกาศ ก่อนโอนเงินทุกครั้ง

6

หากเป็นไปได้อาจใช้วิธีนัดพบเพื่อส่งมอบสินค้า ควรจะนัดในสถานที่ชุมชน และทดสอบสินค้าให้เรียบร้อยก่อนจ่ายเงิน

7

สังเกตพฤติกรรมผู้ขาย ผู้ขายที่ดีจะยินดีตอบทุกคำถามและพร้อมที่จะให้ข้อมูลต่างๆกับผู้ซื้อตามความเป็นจริง

ก็แค่วิธีง่ายๆ คุณก็สามารถทำเองได้ค่ะ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด

แล้วอย่าลืมนำไปใช้กันนะค่ะ